แสดงกระทู้
|
หน้า: [1]
|
1
|
ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ / ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ โฆษณาหนังสือแนวข้อสอบ / เผยแพร่งานคอมพิวเตอร์ ปง6
|
เมื่อ: สิงหาคม 31, 2017, 10:27:51 pm
|
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุด การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยงาน โรงเรียนบ้านโคกน้ำเกี้ยง อำเภอเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ผู้ศึกษา นางสาวกัลยา หงษ์พรม ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุด การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้ได้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านโคกน้ำเกี้ยง อำเภอเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านโคกน้ำเกี้ยง อำเภอเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโคกน้ำเกี้ยง อำเภอเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เอกสารประกอบการเรียน ชุด การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วย การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 10 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.45 ถึง 0.73 ค่าอำนาจจำแนกรายข้ออยู่ระหว่าง 0.36 ถึง 0.73 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 14 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามวัดความพึงพอใจ เท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า 1. เอกสารประกอบการเรียน ชุด การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 87.33/88.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80 2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านโคกน้ำเกี้ยง อำเภอเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี พบว่า นักเรียนทำคะแนนทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 20.87 คะแนน จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 52.17 และทำคะแนนทดสอบหลังเรียน (Post-test) ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 35.33 คะแนน จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 88.33 แสดงว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านโคกน้ำเกี้ยง อำเภอเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด การสร้างสรรค์ผลงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี อยู่ในระดับมากที่สุด
|
|
|
2
|
ข้อมูล ศึกษาต่อ สอบบรรจุข้ารางการ รับสมัครงาน / รวมความรู้ 8 กลุ่ม สาระฯ / เผแพร่ผลงานวิชาการ วิชาคณิตศาสตร์
|
เมื่อ: สิงหาคม 04, 2017, 11:22:52 am
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ผู้ศึกษา นางสาวศศิพิมล แก้วยม ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ วุฒิการศึกษา ปริญญาโท การบริหารการศึกษา (ศษ.ม.) สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านโต่งโต้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หนองบัวลำภู เขต 1 ปีที่ทำการศึกษา ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เป็นการจัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญซึ่งเป็นไปตามแนวคิดและหลักการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ดังนั้น การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง บทประยุกต์ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง บทประยุกต์ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง บทประยุกต์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโต่งโต้น สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 จำนวน 10 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ครั้งนี้ มีจำนวน 3 ชนิดประกอบด้วย 1) แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง บทประยุกต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 เล่ม รวมเวลาเรียนพร้อมทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 17 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย (P) อยู่ระหว่าง 0.34 ถึง 0.54 อำนาจจำแนกฺ ตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.65 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ(rcc) เท่ากับ 0.9181 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง บทประยุกต์ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.836 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล และทดสอบค่า t -test
ผลการศึกษาค้นคว้า สรุปได้ดังนี้ 1. แบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ สำหรับ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.37/86.33 2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง บทประยุกต์ ค่าเท่ากับ 0.7919 หรือคิดเป็นร้อยละ 79.19 3. นักเรียนโรงเรียนบ้านโต่งโต้นที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง บทประยุกต์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. นักเรียนมีความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง บทประยุกต์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.67)
โดยสรุป แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง บทประยุกต์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ซึ่งผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสม สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และมีความก้าวหน้าในทางการเรียนเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถเป็นแนวทางในพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามจุดมุ่งหมายของจัดการเรียนรู้ต่อไป
|
|
|
3
|
ข้อมูล ศึกษาต่อ สอบบรรจุข้ารางการ รับสมัครงาน / รวมความรู้ 8 กลุ่ม สาระฯ / เผยแพร่งานสุขศึกษา ม.2
|
เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2017, 06:35:27 am
|
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด มั่นใจในชีวิต สาระความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยงาน โรงเรียนนาหนองทุ่มตาลเดี่ยวสระแก้ววิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ผู้ศึกษา วิชาญ ชะนะไล ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน ชุด มั่นใจในชีวิต สาระความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนนาหนองทุ่ม-ตาลเดี่ยวสระแก้ววิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด มั่นใจในชีวิต สาระความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนนาหนองทุ่มตาลเดี่ยวสระแก้ววิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด มั่นใจในชีวิต สาระความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนนาหนองทุ่มตาลเดี่ยวสระแก้ววิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย เอกสารประกอบการเรียน ชุด มั่นใจในชีวิต สาระความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุด มั่นใจในชีวิต สาระความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ที่ผู้ศึกษาจัดทำขึ้น จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.59 ถึง 0.73 ค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้อ อยู่ระหว่าง 0.27 ถึง 0.73 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 16 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้อ อยู่ระหว่าง 0.36 ถึง 0.77 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามวัดความพึงพอใจทั้งฉบับเท่ากับ 0.81
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบสมมติฐาน โดยใช้ t-test ผลการศึกษาพบว่า 1. เอกสารประกอบการเรียน ชุด มั่นใจในชีวิต สาระความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 86.56/85.56 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนนาหนองทุ่ม-ตาลเดี่ยวสระแก้ววิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด มั่นใจในชีวิต สาระความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ¬ 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนนาหนองทุ่ม-ตาลเดี่ยวสระแก้ววิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ชุด มั่นใจในชีวิต สาระความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
|
|
|
4
|
ข้อมูล ศึกษาต่อ สอบบรรจุข้ารางการ รับสมัครงาน / ศิลปะ / เผยแพร่งานศิลปะ(ดนตรี) ม.1
|
เมื่อ: เมษายน 20, 2017, 10:23:51 am
|
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน หน่วย ดนตรีไทยแสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยงาน โรงเรียนโนนคูณวิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หนองบัวลำภู เขต 1 ผู้ศึกษา นายไกรษร พรมทอง ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน หน่วย ดนตรีไทยแสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้ได้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนโนนคูณวิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน หน่วย ดนตรีไทยแสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนโนนคูณวิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน หน่วย ดนตรีไทยแสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโนนคูณวิทยา ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เอกสารประกอบการเรียน หน่วย ดนตรีไทยแสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วย ดนตรีไทย แสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จำนวน 10 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วย ดนตรีไทยแสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.55 ถึง 0.77 ค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้ออยู่ระหว่าง 0.36 ถึง 0.73 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 12 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้ออยู่ระหว่าง 0.45 ถึง 0.77 และค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามวัดความพึงพอใจ เท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า 1. เอกสารประกอบการเรียน หน่วย ดนตรีไทยแสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 88.75/84.51 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนโนนคูณวิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน หน่วย ดนตรีไทยแสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ พบว่า นักเรียนทำคะแนนทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 20.44 คะแนน จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51.11 และทำคะแนนทดสอบหลังเรียน (Post-test) ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 33.81 คะแนน จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 84.51 แสดงว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนโนนคูณวิทยา อำเภอศรีบุญเรือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน หน่วย ดนตรีไทยแสนไพเราะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ อยู่ในระดับมากที่สุด
|
|
|
|